หัวข้อ
- #พืชคู่ใจ
- #วิธีการดูแล
- #อัลลิอัม
สร้าง: 2024-02-07
สร้าง: 2024-02-07 17:11
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแนะนำดอกไม้ที่แปลกตาหน่อยนะคะ ดอกไม้ที่มีรูปทรงกลมกลม เมื่อบานแล้วจะเห็นก้านดอกยาวๆ โผล่ขึ้นมาคล้ายๆ กับเมล็ดทานตะวันปลิวไปตามลม ดูสวยงามใช่ไหมล่ะคะ นั่นคือ ดอกอัลลิอัม นั่นเองค่ะ
Pixabay
อัลลิอัมมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Allium spp. จัดอยู่ในวงศ์ลิลลี่ (百合科) โดยทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 325 ชนิด ส่วนใหญ่พบในซีกโลกเหนือ และในประเทศเกาหลีมีอยู่ 21 ชนิด พบได้ตามที่ราบแห้งแล้งหรือภูเขาในซีกโลกเหนือ โดยทั่วไปแล้วจะใช้เป็นยา อาหาร และไม้ประดับ นอกจากนี้ยังมีหลายชนิดที่เป็นวัชพืชด้วยนะคะ ใบและลำต้นงอกออกมาจากราก มีกลิ่นคล้ายกระเทียมหอมๆ ลองนึกภาพดูสิคะ น่าสนใจไหมล่ะคะ?
ถิ่นกำเนิดของอัลลิอัมอยู่ที่เอเชียกลาง ซีเรีย กรีซ และบริเวณชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนค่ะ และที่สำคัญนั่นก็คือ คำพ้องของดอกไม้นั่นเองค่ะ คำพ้องของอัลลิอัมคือ “ความเศร้าโศกอันไร้ขอบเขต” (무한한 슬픔) ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าทำไมถึงตั้งชื่อแบบนี้ แต่ดูเหมือนว่าคำพ้องนี้จะเข้ากับความรู้สึกที่สงบและเศร้าของดอกไม้ได้เป็นอย่างดีเลยนะคะ
ช่วงเวลาที่ดอกไม้บานนั้นแตกต่างกันไปมากมาย มีทั้งที่บานในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง สีของดอกไม้ก็มีความหลากหลายเช่นกัน โดยสีที่พบได้บ่อยคือสีม่วง แต่ก็มีสีอื่นๆ เช่น ชมพู ม่วงแดง ฟ้าอ่อน เหลือง ม่วงเข้ม เป็นต้น ความสูงของดอกไม้สูงสุดประมาณ 50 ซม. ถือว่าสูงพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ
ในวงการไม้ดอกไม้ประดับนั้น จะแบ่งอัลลิอัมออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ ชนิดที่มีก้านดอกยาวและดอกใหญ่ และชนิดที่มีก้านดอกสั้น แต่ก็มีชนิดที่มีขนาดกลางด้วยนะคะ ชนิดที่มีขนาดกลางและใหญ่ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ตัดดอก ส่วนชนิดที่มีขนาดเล็กนั้นนิยมปลูกเป็นไม้ประดับในแปลงปลูกหรือกระถางค่ะ
ทั่วโลกนั้น เนเธอร์แลนด์เป็นผู้ปลูกอัลลิอัมมากที่สุด และส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีประเทศญี่ปุ่นและอิสราเอลที่ปลูกในปริมาณเล็กน้อย เนเธอร์แลนด์ถือเป็นประเทศที่มีการเพาะปลูกดอกไม้มากที่สุดประเทศหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ
เรามาแนะนำข้อมูลเบื้องต้นในการปลูกอัลลิอัมกันค่ะ การปลูกและการตัดดอกนั้นอาจจะต้องใช้ความพยายามมากหน่อย แต่โดยทั่วไปแล้ว การดูแลรักษาค่อนข้างง่าย อัลลิอัมชอบอากาศเย็น และไม่เหมาะที่จะปลูกในที่อากาศร้อนค่ะ
โดยทั่วไปแล้ว หลังจากที่ดอกบานแล้ว จะเข้าสู่ช่วงพักตัว และจะพักตัวไปตลอดฤดูร้อนในสภาพแห้งแล้ง เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อุณหภูมิเริ่มเย็นลง ก็จะเริ่มเจริญเติบโตอีกครั้ง เนื่องจากเป็นพืชที่ชอบอากาศเย็น ดังนั้น ในประเทศไทยที่มีอากาศหนาวในช่วงฤดูหนาวและร้อนชื้นในช่วงฤดูร้อน อาจจะทำให้การปลูกค่อนข้างยากสักหน่อยค่ะ พันธุ์อัลลิอัมส่วนใหญ่มีหัวเป็นแบบหัวใต้ดิน แต่ก็มีบางชนิดที่มีเหง้าด้วยนะคะ ในวงการไม้ดอกไม้ประดับนั้น จะเรียกอัลลิอัมในภาษาละตินว่า “กระเทียม” (마늘) เป็นพืชหัวใต้ดินที่ปลูกในฤดูใบไม้ร่วง และส่วนใหญ่จะบานในฤดูใบไม้ผลิ เก็บเกี่ยวหัวได้ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม
เราขอแนะนำอัลลิอัม 2 ชนิดนะคะ ชนิดแรกคือ อัลลิอัมยักษ์ (A. giganteum) มีถิ่นกำเนิดในเอเชียกลาง มีหัวขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ 1.5 เมตร ใบมีความยาวประมาณ 50-60 ซม. ดอกมีสีชมพู บานในเดือนพฤษภาคม มีดอกประมาณ 200 ดอก เรียงกันเป็นช่อดอกแบบช่อซี่ร่ม
wikidata
ส่วนตัวแล้วคิดว่าอัลลิอัมยักษ์ดูสดใสและดูมีดอกเยอะกว่าชนิดอื่นๆ นะคะ ต่อไปคือ อัลลิอัมลิลลี่ริค (A. moly) ที่มีดอกสีเหลือง และอัลลิอัมลิคกี้ (A. porrum) ที่มีดอกสีชมพู สามารถปลูกเป็นไม้ประดับและรับประทานได้ด้วยนะคะ ดอกอาจจะดูไม่แน่นมากนัก แต่ก้านดอกสามารถดัดงอได้ จึงนิยมใช้ในการจัดดอกไม้ค่ะ
วิกิพีเดีย
ภาพด้านบนคือ Allium moly หรือที่รู้จักกันในชื่อ 릴리리크 (릴리리크) หรือกระเทียมสีเหลืองค่ะ
ริกกี (A. porrum), plantnet
เป็นอย่างไรบ้างคะกับการแนะนำดอกอัลลิอัมที่สวยงามนี้ หากได้พบเจอกับอัลลิอัมในสวนหรือร้านดอกไม้ ลองนึกถึงชื่อและคำพ้องของมันดูนะคะ สำหรับวันนี้ขอจบการแนะนำเพียงเท่านี้ ขอบคุณค่ะ!
ความคิดเห็น0